5 เทคนิคประหยัดไฟ “ตู้เย็น” คู่บ้าน ลดค่าใช้จ่ายสบายกระเป๋า

ตู้เย็น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องควบคุมความเย็นตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นตู้เย็นจึงเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่บอกเลยว่าค่อนข้างที่จะกินไฟพอสมควร ซึ่งวันนี้ก็แวะเอาเทคนิคประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายของตู้เย็นมาฝากกัน รับรองเลยว่าค่าไฟสิ้นเดือนออกมา คุณต้องยิ้มแก้มปริแน่นอน

ภาพจาก KoolMax

ช่องแช่แข็งอย่าแช่เยอะ

ช่องแช่แข็งเป็นส่วนที่ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ เนื่องจากช่องแช่แข็ง จะต้องทำอุณภูมิให้สิ่งของที่เรานำมาแช่ให้อยู่ในระดับที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นปริมาณของที่เราจะเอาเก็บในช่องแช่แข็ง จะต้องไม่มาก หรือ ไม่น้อยจนเกินไป หากช่องแช่แข็งในตู้เย็นของคุณยังคงโล่งอยู่ ก็ลองหาไอศกรีมมาแช่เอาไว้ก็ได้ วันไหนร้อนๆ ก็หยิบออกมากินกันเนอะ อิอิ

ภาพจาก abcnews.go.com

เลือกตำแหน่งแช่ของให้ถูกต้อง

เพราะอาหารแต่ละประเภท ต้องการความเย็นที่แตกต่างกัน หากเราไม่จัดเก็บอาหารให้ตรงตำแหน่งที่ถูกต้อง นอกจากจะทำให้อาหารเสียเร็วแล้ว ยังทำให้ตู้เย็นทำงานหนักมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นเวลาเราแช่วัตถุดิบ เราจะต้องแยกประเภทอย่างชัดเจน เนื้อสดแช่ช่องแข็ง ผักแช่ที่ช่องแช่ผัก

ภาพจาก CNET

ละลายน้ำแข็งตู้เย็น

น้ำแข็งที่เกาะภายในช่องแช่แข็งของตู้เย็น จัดว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างหนุ่ง ที่คอยบั่นทอนการทำงานของตู้เย็น รวมไปถึงอาหารที่ถูกทิ้งค้างในตู้เย็นเวลานาน ทำให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้อาหารอิ่นมีกลิ่นติดไปด้วย

ดังนั้นเราควรหมั่นละลายน้ำแข็ง และเคลียร์ล้างทำความสะอาด สร้างสุขอนามัยที่ดีภายในตู้เย็นอยู่เสมอ และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ

ปรับอุณภูมิให้เหมาะสม และตรวจสอบตู้เย็นอยู่เสมอ

ปกติแล้วตู้เย็นโดยทั่วไป จะมีปุ่มปรับอุณภูมิแอบอยู่ด้านใน ถ้าหากคุณสังเกตุดีดี โดยอุณภูมิมตราฐานของช่องแช่เย็นธรรมดาจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 องศา และในช่องแช่แข็งจะอยู่ที่ -18 - -20 องศา นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพตู้เย็น เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีอยู่เสมอ

ภาพจาก Refrigerator Reviews

อย่าเปิดตู้เย็นบ่อยเกินไป

คุณรู้ไหมว่าการเปิดตู้เย็นบ่อยๆ จะทำให้ภายในตู้เย็นเสียอุณภูมิที่ควรจะเป็น ความร้อนภายยอกจะเข้าสู่ภายใน ทำให้ตู้เย็นจะต้องทำงานหนักเพื่อที่จะปรับอุณภูมิให้ได้ตามที่ตั้งเอาไว้ ยิ่งเราเปิดปิดหลายครั้ง ตู้เย็นก็จะยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น ดังนั้นเราควรเปิดปิดตู้เย็นยามจำเป็นจะดีกว่าเนอะ

ภาพจาก qioto.com