เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นภายในบ้าน ราคาก็ไม่ใช่จะถูกๆใช่ไหมล่ะ ตอนเราจะตัดสินใจเลือกสักเครื่องมาใช้ที่บ้าน ก็คิดแล้วคิดอีก ทั้งฟังก์ชัน ดีไซน์ ความคุ้มค่า การประหยัดพลังงาน และที่สำคัญเลยคือเรื่องของราคา
แต่พอเราตัดสินใจนำ
เครื่องใช้ไฟฟ้ามาใช้งานที่บ้าน กลับละเลย เผลอทำพฤติกรรมผิดๆ ที่อาจจะส่งผลให้
เครื่องใช้ไฟฟ้า อาจจะพังก่อนเวลาอันเหมาะสม !
ภาพจาก Daily Express
ถ้าหากคุณไม่ต้องการให้
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านพังก่อนเวลาอันควร เรามาเริ่มต้นสำรวจกันดีกว่าค่ะว่า คุณมีพฤติกรรมอะไรที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงทำลาย
เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยไม่รู้ตัวบ้างรึเปล่า ?
เครื่องซักผ้าเป็นอีก
เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีทุกบ้านแน่นอน แต่บางครั้งคุณก็อาจจะที่จะเผลอวางของหนักๆเอาไว้บน
เครื่องซักผ้า ขนาด
เครื่องซักผ้าก็ออกจะใหญ่โต คิดว่าคงจะไม่เป็นอะไรหรอกน่า แต่อันที่จริงแล้ว ควรเลี่ยงที่จะวางของหนักๆไว้ด้านบน
เครื่องซักผ้าอย่างเด็ดขาด หรือถ้าหากจำเป็นต้องวางจริงๆ ก็ไม่ควรหนักมากจนเกินไป
รวมไปถึงการยืนท้าวแขนกับ
เครื่องซักผ้า หรือเหยียบบนตัวเครื่อง เพราะจะทำให้
เครื่องซักผ้าทรุด และอาจจะตกลงมาเจ็บตัวไปอีก ….
อีกสาเหตุที่อาจจะทำให้
เครื่องซักผ้าพังเร็วขึ้นก็คือ คุณไม่สำรวจกระเป๋ากางเกงก่อนโยนลงตัวถัง อาจจะมีเงินเศษเหรียญอยู่ในกระเป๋า ซึ่งถ้าหากของเหล่านี้หลุดออกไปขัดกับกลไกการทำงาน บอกเลยว่างานงอกแน่นอนค่ะ ได้ถึงคราวยก
เครื่องซักผ้าไปซ่อมกันยาวๆเลย
ภาพจาก The Sweethome
สำหรับ
เครื่องซักผ้าฝาหน้า ขอบยางเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการใช้น้ำส้มสายชูเช็ดให้ทั่ว แล้วเช็ดออกด้วยผ้าแห้งสะอาดๆซ้ำอีกที เปิดฝาทิ้งเอาไว้ให้อาศถ่ายเท และถ้าหาก
เครื่องซักผ้าที่บ้านของคุณไม่มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยตัวเองอย่างน้อง 1 ครั้งต่อเดือน
ทำความสะอาด
เครื่องซักผ้าได้ง่ายๆ สามารถติดตามอ่านได้ที่ >
เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทำความสะอาดไม่ยากนะ รู้ยัง ?
ภาพจาก Washer, Dishwasher & Electric Cooker Repair. WasherCare Ltd
หลังจากซักทำความสะอาดเสื้อผ้าเสร็จสิ้นทุกกระบวนการแล้ว ให้รีบนำผ้าออกจากเครื่องไปตากเลยนะคะ อย่าทิ้งเอาไว้นาน เพราะตัวถังและสายพานของ
เครื่องซักผ้าต้องแบกรับน้ำหนักผ้าเปียกๆเอาไว้นานๆ อาจจะพังและเสียกายได้ แถมมีกลิ่นอับติดเสื้อผ้าอีกด้วยค่ะ
สิ่งแรกเลยที่ห้ามทำตั้งแต่แรกเริ่มเลย คือไม่ควรยก
ตู้เย็นเป็นแนวนอน เพราะจะทำให้น้ำยาคอมเพลสเซอร์
ตู้เย็นไหลออกมา ทำให้ระบบภายในเกิดความเสียหายได้ อีกทั้งยังทำให้อายุการใช้งาน
ตู้เย็นสั่นลงอีกด้วย หากจะเคลื่อนย้ายตำแหน่ง
ตู้เย็น ควรเคลื่อนย้ายเป็นแนวตั้งหรือแนวเอียงไม่เกิน 40 องศาค่ะ
ภาพจาก Stay at Home Mum
หลังจากเคลื่อนย้ายมาวางไว้ในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว ไม่ควรเสียบปลั๊กใช้งานเลยทันที เพราะอาจจะทำให้น้ำยาคอมเพลสเซอร์รั่วไหลออกจนทำระบบภายในเสียหายได้ ควรรอประมาณ 4-5 ชั่วโมงเพื่อให้น้ำยาเข้าที่ก่อนค่อยเสียบปลั๊กใช้งานเพื่อความชัวร์
หลังจากการใช้งานไปเป็นระยะเวลานาน ควรที่จะทำความสะอาด
ตู้เย็นกันบ้าง ภายใน
ตู้เย็น ชั้นวางของ ตู้เก็บของสด ผัก ผลไม้ เอาออกมาเช็ดล้างทำความสะอาดให้หมด โดยขั้นตอนการทำความสะอาด
ตู้เย็นก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ สามารถติดตามอ่านได้ที่ >
มือใหม่หัดทำความสะอาดตู้เย็น Step by Step
ภาพจาก The Organised Housewife
นอกจากทำความสะอาด
ตู้เย็นภายในแล้ว เราควรดูแลในส่วนของขดลวดเดนเซอร์หรือแผงความร้อนที่อยู่ด้านนอก ที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนเช่นกัน เพื่อช่วยลดกำลังการทำงานของ
ตู้เย็น ช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น และยืดอายุการใช้งานของ
ตู้เย็นอีกด้วย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและไม่ควรทำกับเครื่องไมโครเวฟคือ การวางของหนักๆเอาไว้บนไมโครเวฟ เพราะอาจจะบังช่องระบายอากาศทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้ไม่สะดวก นอกจากนี้เวลาเราใช้งานไมโครเวฟ เราต้องคำนึงถึงเรื่องของน้ำหนักอาหารด้วยนะ
ภาพจาก Compact Appliance
ทำไมเราต้องคำนึงถึงเรื่องน้ำหนักอาหาร นั้นก็เพราะว่า ไมโครเวฟ ไม่ใช่เตาอบไฟฟ้า ไม่สามารถรับน้ำหนักของอาหารจำนวนมากได้ ตัวถาดหมุนด้านล่างอาจจะไม่ทำงาน แย่สุดคือตัวจานหมุนแตกเสียหาย ทางที่ดีควรอ่านรายละเอียดการใช้งานในคู่มือกันก่อนดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ยังต้องใส่ใจในเรื่องของภาชนะที่นำเข้าไมโครเวฟ ข้อนี้มีความสำคัญมากเลยทีเดียวค่ะ ห้ามใช้ภาชนะทั่วๆไป ที่ไม่ได้ระบุว่าใช้กับไมโครเวฟได้ชัดเจน เพราะจะเป็นสาเหตุทำให้ไมโครเวฟเสียหาย หรืออาจจะระเบิดขณะอุ่นอาหารอยู่ได้เลยล่ะค่ะ
เมื่อเราทราบกันแล้วว่า อะไรควรทำและไม่ควรทำ ถ้าหากคุณเคยมีพฤติกรรมการใช้งาน
เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบผิดๆอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ก็ควรหยุดและหลีกเลี่ยงโดยทันที เพราะนอกจาก
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านจะพังเร็วกว่าปกติล้ว อาจจะเกิดอันตรายขณะใช้งานอีกด้วยค่ะ
Đèn sưởi Hans
ตอบลบĐèn sưởi Kottmann
Đèn sưởi Heizen