Header Ads

Homepro Promotion
Homepro Promotion

วิธีเลือกเครื่องปั่นใช้งานถูกใจ แบบนี้แหละใช่เลย !

เครื่องปั่น เป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งานกันสัก 1 เครื่องอย่างแน่นอน เพราะเครื่องปั่น สามารถปั่นได้ทั้งผัก ผลไม้ รวมถึงเครื่องปรุง เครื่องเทศต่างๆ ปั่นละเอียดเนียนเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว

เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก williams-sonoma.com

แต่หากคุณเคยเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า ก็จะพบว่าเครื่องปั่นมีให้เลือกเยอะมากเลยใช่ไหมล่ะ บางทีก็ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันล่ะเนอะ ว่าจะเลือกเครื่องปั่นรุ่นไหนมาใช้งานกันดี

วันนี้เลยมีเคล็ดลับดีดี ในการเลือกเครื่องปั่น ว่าควรเลือกเครื่องปั่นแบบไหน ถึงจะเหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่บ้าน หรือเป็นการนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์


ก่อนอื่นเลยเราต้องตอบโทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเราเองก่อน ว่าเราจะเอาเครื่องปั่นมาใช้ทำอะไร เน้นปั่นผลไม้ เน้นปั่นเครื่องเทศ เครื่องปรุงอาหาร หรือจะใช้เครื่องปั่นมาประกอบอาชีพหลัก เพื่อที่จะได้กำหนดคุณสมบัติของเครื่องปั่นได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด

เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก Forbes

เครื่องปั่นก็จะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือแบบที่ไม่ใหญ่มาก เน้นเรื่องของความรวดเร็วในการปั่น ใช้งานได้ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน พกพาสะดวก และเครื่องปั่นอีกประเภทคือ เครื่องปั่นขนาดใหญ่ ที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุม

เครื่องปั่นแบบแก้ว


เครื่องปั่นแบบแก้ว เป็นเครื่องปั่นขนาดเล็ก ที่จะเหมาะกับการปั่นน้ำผลไม้สดเป็นหลัก ปั่นแล้วสามารถยกดื่มได้เลย บางรุ่นเนี่ยมีฝาปืดให้ใช้เป็นกระบอกน้ำได้ด้วย สะดวกมากๆ

เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก Engadget

เครื่องปั่นแบบมือจับ


เครื่องปั่นแบบมือจับ เป็นเครื่องปั่นที่เราสามารถนำไปปั่นในภาชนะของเราได้เลย โดยไม่ต้องใส่โถปั่น สะดวกต่อการพกพา และใช้งานง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นภาชนะเล็ก หรือใหญ่ เจ้าเครื่องปั่นแบบมือจับ ก็สามารถบดละเอียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก The Independent

เครื่องปั่นแบบมาตราฐาน


เครื่องปั่นแบบมาตราฐาน เหมาะสำหรับคุณแม่บ้าน ที่ต้องการเครื่องปั่นไว้ใช้งานสำหรับงานครัว ไม่ว่าจะเป็นการปั่นผัก ผลไม้ หรือเครื่องเทศ เครื่องปั่นแบบมาตราฐาน ก็สามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม มีให้เลือกหลายขนาด แล้วแต่ว่าคุณจะนำไปใช้งานอย่างไร

เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก Groupon

ปล. บอกก่อนว่า เครื่องแน จะทำหน้าที่ปั่นและบดอาหารและเครื่องปรุงได้จำนวนมากก็จริง แต่ก็ไม่ควรที่จะใส่วัตถุดิบมากเกินครึ่งโถนะคะ เพราะจะเป็นการทำให้เครื่องปั่นทำงานหนักมากเกินไป และแน่นอนว่าประสิทธิภาพในการปั่นก็ลดลงด้วยค่ะ

ฟังก์ชันการทำงานของเครื่องปั่น


ฟังก์ชันการทำงานของเครื่องปั่น นอกจากการปั่นละเอียดแล้ว ก็ควรจะมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ที่ช่วยทำให้การประกอบอาหาร สามารถทำได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น

  • Low – High ปรับควมเร็วและความแรงในการปั่น
  • Ice Breaker ปั่นน้ำแข็งให้เป็นแบบสมูทตี้
  • Stir ระบบสำหรับการกวนหรือคนวัตถุดิบ
  • Puree ระบบสำรับการบดละเอียด
  • Crumb ระบบสำหรับการบดแบบหยาบๆ
เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก Simply Love Gardening


กำลังไฟเครื่องปั่น


ในส่วนของเรื่องกำลังไฟฟ้าของเครื่องปั่น เราสามารถดูไดจากตัวฐานของเครื่อง (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตรงนี้) โดยสัญลักษณ์จะเป็นตัวอักษร W ซึ่งตัวเลขไม่ควรต่ำกว่า 200 W สำหรับใช้งานทั่วไปที่บ้าน

แต่หากคุณกำลังมองหาเครื่องปั่นไว้ใช้ประกอบอาชีพจริงจัง แนะนำว่ากำลังไฟไม่ควรต่ำกว่า 600 W แต่หากที่ร้านขายดีมากๆ ก็ควรจัดเครื่องปั่นรุ่นใหญ่ไปเลยขนาด 1000 W ค่ะ

เพราะถ้าหากเราเลือกเครื่องปั่นที่กำลังไฟฟ้าต่ำเกินไปสำหรับการใช้งาน ตัวมอเตอร์อาจจะไหม้และเสื่อมสมรรถภาพลงได้ง่าย แต่หากเลือกซื้อขนาดที่ใหญ่เกินไป ก็จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนสักเท่าไหร่ค่ะ ดังนั้นเวลาเลือกก็ต้องดูด้วยว่า เราเอาไปใช้งานมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลือกกำลังไฟได้อย่างเหมาะสม

เลือกเครื่องปั่น

วัสดุอุปกรณ์เครื่องปั่น


วัสดุอุปกรณ์ของเครื่องปั่น เป็นอีกอย่างที่เราต้องพิจารณาร่วมด้วย ไม่ควรมองข้าม วัสดุอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นโถปั่น ใบมีด ก็ควรเลือกเป็นวัสดุที่ดี มีคุณภาพและทนทาน

โถปั่น : ควรเลือกเป็นพลาสติกเกรดดีจำพวก Polycarbonate เป็นวัสดุที่มีคุณภาพและความทนทานสูง ไม่แตกง่าย ที่สำคัญคือควรเลือกเครื่องปั่นจากแบรนด์ที่รองรับเรื่องของความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน เพราะพลาสติดเกรดต่ำอาจจะมีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเรา

ใบมีด : ใบมีดควรที่จะต้องเลือกเป็นสแตนเลส ที่มีความแข็งแรง คม และไม่เกิดสนิม อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า และมั่นใจได้เลยว่าวัตถุดิบที่นำมาปั่น จะเนียนละเอียดอย่างที่เราต้องการแน่นอน

เลือกเครื่องปั่น
ภาพจาก Ginny's

ราคาเครื่องปั่น


มาถึงเรื่องที่สำคัญมากที่สุดคือ เรื่องของราคาเครื่องปั่นนั่นเอง เราจะต้องกำหนดก่อนว่า ตัวเรานั่นมีงบประมาณอยู่ที่เท่าไหร่ สำหรับคุณแม่บ้านที่อยากจะได้เครื่องปั่นมาตราฐานมาใช้งานที่บ้าน ก็ตั้งงบไว้ประมาณ 1,500 – 3,000 บาทก็เพียงพอ

แต่สำหรับคนที่อยากจะได้เครื่องปั่นมาใช้ประกอบอาชีพ ก็ต้องเลือกที่มีฟังก์ชันเยอะมากขึ้นอีก ราคาก็จะสูงขึ้นไป อาจจะถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น