BTU แอร์บ้านกับขนาดพื้นที่ ต้องคิดยังไง?
แอร์บ้าน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แทบจะขาดไม่ได้เลยตามบ้านเรือน อาคารและสำนักงาน ด้วยอากาศบ้านเราที่เต็มไปด้วยความร้อนระอุ เหมือนกับมีพระอาทิตย์มาอยู่บนหลังคาบ้านแบบนี้ บอกเลยว่าแค่พัดลมก็คงเอาไม่อยู่แน่นอน
ดังนั้นการเลือกแอร์บ้านมาติดตั้งใช้งานที่บ้าน จะสามารถช่วยคลายร้อน เพิ่มความเย็นชื่นใจให้กับที่อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่การจะเลือกแอร์บ้านขนาดให้เหมาะสมกับบ้านของเรา จะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ?
พิจารณาเลือกแอร์บ้านให้เหมาะสม
การเลือกแอร์บ้านให้เหมาะสมกับบ้านของเรา จะต้องพิจารณาหลักๆเลยคือเรื่องของ ขนาดของแอร์ว่าเป็นแอร์กี่ BTU ขนาดของพื้นที่ห้องที่เราจะทำการติดตั้ง และตำแหน่งของหน้าต่างบ้าน ตรงส่วนที่รับแสงแดดจากภายนอก ว่าอยู่ตรงจุดไหน คุณสามารถตรวจสอบขนาด BTU ให้เหมาะสมกับห้องที่บ้านได้ด้วยการเทียบตารางดังนี้
บีทียู | ห้องปกติ (ตร.ม.) | ห้องที่โดนแดด (ตร.ม.) |
9000 | 12 - 14 | 11 - 13 |
12000 | 16 - 20 | 14 - 18 |
18000 | 20 - 28 | 21 - 27 |
21000 | 28 - 35 | 25 - 32 |
24000 | 32 - 40 | 28 - 35 |
26000 | 35 - 44 | 30 - 39 |
30000 | 40 - 50 | 35 - 45 |
36000 | 48 - 60 | 42 - 54 |
40000 | 56 - 65 | 52 - 60 |
48000 | 64 - 80 | 56 - 72 |
60000 | 80 - 100 | 70 - 90 |
การเลือก BTU แอร์บ้านให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง จะสามารถช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเราเลือกแอร์บ้าน BTU ต่ำเกินไป แอร์บ้านก็จะทำงานหนัก เพื่อที่จะปรับอุณภูมิให้ได้ถึงตามที่เราตั้งค่าเอาไว้ แต่หากเราเลือกแอร์บ้าน BTU สูงกว่าขนาดของห้อง ก็จะทำให้เราเปลืองค่าไฟโดยใช่เหตุ
ดังนั้นการเลือก BTU แอร์บ้านให้เหมาะสม จะช่วยทำให้เราสามารถประหยัดค่าไฟ และใช้งานแอร์บ้านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่หากคุณอยากประหยัดไฟได้มากขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องเลือกแอร์บ้านเป็นระบบ Inverter รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานอย่างเช่น ก่อนเปิดแอร์ ให้ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทเสียก่อน, เปิดพัดลมเพื่อไล่ความร้อนก่อนเปิดแอร์, ไม่ควรนำความชื้นหรือความร้อนเข้ามาในห้อง และที่สำคัญคือต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพแอร์บ้าน และล้างแอร์เป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
Post a Comment