
สาเหตุเป็นเพราะการซักทำความสะอาดเสื้อผ้าในแต่ละครั้ง แน่นอนว่ามันจะต้องมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในตัวถังซัก อยู่ในถุงกรองฝุ่น เมื่อสะสมนานวันเข้าปริมาณยิ่งเพิ่มพูน ทำให้เสื้อผ้าที่ผ่านการซักจะมีกลิ่นเหม็น และคราบสิ่งสกปรกติดเสื้อผ้า ดังนั้นการทำความสะอาด ล้างเครื่องซักผ้า จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก
แต่เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ไม่ได้มองว่าการล้างเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งที่ต้องทำ ซื้อเครื่องมา 5 ปีหรือมากกว่านั้น แทบจะไม่เคยคิดถึงเรื่องการล้างถังซักเลยด้วยซ้ำ เพราะเครื่องซักผ้าก็ทำงานอยู่กับน้ำและผงซักฟอก หลายคนจึงเข้าใจกันไปว่า การซักแต่ละทีก็เหมือนทำความสะอาดไปในตัวอยู่แล้ว… บอกตรงๆเลยว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะการที่เครื่องซักผ้าทำงานอย่างเป็นประจำ มันไม่เหมือนกับการล้างทำความสะอาดนะ!
ล้างเครื่องซักผ้าด้วยตัวเอง
- น้ำส้มสายชู หรือ เบกกิ้งโซดา หรือ ผงทำความสะอาดสำเร็จรูป
- ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดทำความสะอาด

ขั้นตอนการล้างเครื่องซักผ้า
ขั้นตอนที่สอง คือเติมน้ำสะอาดให้เต็มตัวถังซัก ในระดับสูงสุด และทำการเทน้ำส้มสายชูลงไป 2-3 ถ้วยตวง หรือผงเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง หรือผงทำความสะอาดสำเร็จรูป แล้วแต่ความสะดวกเลยว่าจะเลือกใช้แบบไหน
ขั้นตอนที่สาม ให้ทำการแช่สิ่งที่เราผสมลงไปทิ้งเอาไว้สัก 2-3 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นถ้าหากคุณมีเวลา แล้วจึงค่อยกดปุ่ม Start ให้เครื่องซักผ้าเริ่มทำงานตามปกติ
ขั้นตอนที่สี่ หลังจากล้างเครื่องซักผ้าเสร็จสิ้นกระบวนการ 1 รอบ ให้ทำอีกครั้งแต่ไม่ต้องผสมอะไรลงไป ล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 1-2 รอบ เพื่อชะล้างกลิ่นของน้ำส้มสายชู หรือผงเบกกิ้งโซดาที่อาจจะตกค้างอยู่ในตัวถังซักออกให้หมด

ขั้นตอนที่หก เปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งเอาไว้เพื่อระบายความอบชื้นและกลิ่นที่อาจจะหลงเหลืออยู่ภายในตัวถังซักหลังจากล้างทำความสะอาด เพราะความชื้นเป็นสาเหตุหลักๆที่ก่อให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในเครื่องซักผ้า
เสร็จสิ้นกระบวนการ สามารถใช้งานเครื่องซักผ้าได้เลย!
ล้างเครื่องซักผ้าด้วยมืออาชีพ
เคล็ดลับเครื่องซักผ้าเพิ่มเติมเสริมความรู้
บทความแนะนำ > เคล็ดลับทำความสะอาดเครื่องซักผ้ากำจัดเชื้อราและกลิ่นอับ
บทความแนะนำ > เคล็ด(ไม่)ลับทำความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยตัวเอง