ประตูดิจิตอล ติดแบบไหนดี แบบไหนเหมาะ กับการใช้งานจริง
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเผชิญปัญหาลืมกุญแจบ้านกันใช่ไหมล่ะ ? มันเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดจริงๆนะคะ เพราะเราใช้งานกุญแจอยู่ทุกวัน แต่ก็ยังลืม ! วันนี้เลยมีตัวเลือกที่น่าสนใจ และทันสมัยอย่าง ประตูดิจิตอล ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมกันอย่างมาก แถมยังมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย
สำหรับบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ประตูดิจิตอล กันก่อนว่า มันคืออะไร การทำงานยังไง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกมาใช้งานกับที่บ้านให้ตรงกับความต้องการมากที่สุดจ้า
ในเรื่องของการติดตั้ง ประตูดิจิตอล มีทั้งแบบติดตั้งแทนลูกบิด หรือเป็นแบบติดตั้งเสริม เพิ่งความปลอดภัยขึ้นสองขั้น โดยความโดดเด่นและลักษณะการใช้งานก็มีความแตกต่างกันไป เรามาเริ่มดูจาก Digital Door Lock รูปแบบแรกกันเลย …
ประตูดิจิตอล แบบติดแทนลูกบิด ในการติดตั้ง จะต้องรื้อเอาลูกบิดประตูของเก่าออกก่อน และติดตั้ง ประตูดิจิตอล เข้าไปแทนที่ โดยขนาดของมันค่อนข้างใหญ่ และส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแบบก้านโยก ดูดีทันสมัย ดูแพง และราคาที่แพงไปตามท้องเรื่อง …
ประตูดิจิตอลแบบติดเสริม จะคล้ายกับการติดกลอนเพิ่มให้กับประตู คือไม่ไปยุ่งกับลูกบิดเดิมที่มีอยู่ แต่เป็นการเสริมความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้น และที่สำคัญคือมีราคาไม่แพงมากนัก น่าจับจองมากๆ แต่ Digital Door Lock แบบติดเสริม อาจจะดูไม่ค่อยสวยงาม ไม่เข้ากับลูกบิดประตูเท่าไหร่
หลังจากเรารู้แล้วว่า ประตูดิจิตอลสามารถติดตั้งได้ 2 รูปแบบหลักๆ แต่การปลดล็อคประตูล่ะ มีกี่แบบ ? เคยเห็นแบบทั่วไป มีเป็นแบบกดรหัส PIN แต่ในปัจจุบัน Digital Door Lock มีระบบการปลดล็อคมากกว่านั้นค่ะ !
อ้าว ! เป็นประตูแบบดิจิตอลแล้ว ทำไมยังต้องมีกุญแจอีกล่ะ ? แน่นอนว่าต้องมีกุญแจสำรองเอาไว้ในกรณี ประตูดิจิตอลทำงานไม่ปกติ แบตเตอรี่หมด หรือเราลืมรหัสผ่าน ลืมคีย์การ์ด หรือสแกนลายนิ้วมือแล้ว ก็ไม่ทำงาน เป็นต้น
สำหรับการปลดล็อคที่เราเห็นกันทั่วไปคือการกดรหัส PIN เป็นการปลดล็อคแบบพื้นฐานที่ ประตูดิจิตอลมีแทบทุกเครื่อง สามารถตั้งรหัสได้หลายชุด ซึ่งคุณสามารถตั้งรหัสแบบชั่วคราวสำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านได้ โดยไม่ต้องบอกรหัสหลักของเรา ง่ายและสะดวกดีค่ะ
นอกจากการกดรหัสแล้ว ระบบแบบใช้ Keycard ก็เป็นอีกวิธีการปลดล็อคที่พ่วงติดมาแทบจะทุกเครื่องเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ในกรณีที่เพื่อนมาบ้านบ่อยๆ หรือคุณพ่อคุณแม่มาเยี่ยม พวกเขาจะได้สามารถเข้าห้องของเราได้โดยไม่ต้องจำรหัสให้วุ่นวาย
การสแกนลายนิ้วมือ เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้งานได้ง่ายและทัยสมัย ไม่ต้องกลัวเรื่องการปลอมแปลงลายนิ้วมือ มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย แต่อาจจะมีข้อเสียอยู่นิดหน่อย ตรงการสแกนไม่ผ่านเพราะเรื่องของอากาศ นอกจากนี้ยังยุ่งยากหากจะให้เพื่อนหรือพ่อแม่ของคุณสามารถเปิดประตูได้ด้วยตัวเอง
รวมทุกอย่าง เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว … ประตูดิจิตอลที่สามารถสแกนเพื่อเปิดปิดประตูด้วยของอะไรก็ได้ ที่เราตั้งค่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัตร มือถือ หรือแม้กระทั่งขวดยาดม … พูดไปจะหาว่าโม้ แต่ Digital Door Lock สามารถทำได้แล้วจริงๆ แต่เรื่องของระบบความแม่นยำในการทำงาน อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ใช้วัตถุสแกน …
ตัว ประตูดิจิตอล แบบปลดล็อคผ่านมือถือด้วย Application ที่คุณสามารถปลดลอคระยะไกลได้ ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Smart Home แต่การที่จะปลดล็อคประตูผ่านทางมือถือ จะต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา มือถือต้องห้ามแบตเตอรี่หมดเด็ดขาด ไม่งั้นเข้าบ้านไมได้นะ !
ภาพจาก Estopolis
รูปแบบของ ประตูดิจิตอล ด้านการติดตั้ง
ในเรื่องของการติดตั้ง ประตูดิจิตอล มีทั้งแบบติดตั้งแทนลูกบิด หรือเป็นแบบติดตั้งเสริม เพิ่งความปลอดภัยขึ้นสองขั้น โดยความโดดเด่นและลักษณะการใช้งานก็มีความแตกต่างกันไป เรามาเริ่มดูจาก Digital Door Lock รูปแบบแรกกันเลย …
ประตูดิจิตอล แบบติดแทนลูกบิด (Main Lock)
ประตูดิจิตอล แบบติดแทนลูกบิด ในการติดตั้ง จะต้องรื้อเอาลูกบิดประตูของเก่าออกก่อน และติดตั้ง ประตูดิจิตอล เข้าไปแทนที่ โดยขนาดของมันค่อนข้างใหญ่ และส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแบบก้านโยก ดูดีทันสมัย ดูแพง และราคาที่แพงไปตามท้องเรื่อง …
ภาพจาก NHSM
ประตูดิจิตอล แบบติดเสริม (Sub Lock)
ประตูดิจิตอลแบบติดเสริม จะคล้ายกับการติดกลอนเพิ่มให้กับประตู คือไม่ไปยุ่งกับลูกบิดเดิมที่มีอยู่ แต่เป็นการเสริมความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้น และที่สำคัญคือมีราคาไม่แพงมากนัก น่าจับจองมากๆ แต่ Digital Door Lock แบบติดเสริม อาจจะดูไม่ค่อยสวยงาม ไม่เข้ากับลูกบิดประตูเท่าไหร่
ภาพจาก lockdigital.com
รูปแบบการปลดล็อคของ ประตูดิจิตอล
หลังจากเรารู้แล้วว่า ประตูดิจิตอลสามารถติดตั้งได้ 2 รูปแบบหลักๆ แต่การปลดล็อคประตูล่ะ มีกี่แบบ ? เคยเห็นแบบทั่วไป มีเป็นแบบกดรหัส PIN แต่ในปัจจุบัน Digital Door Lock มีระบบการปลดล็อคมากกว่านั้นค่ะ !
กุญแจประตูดิจิตอล
อ้าว ! เป็นประตูแบบดิจิตอลแล้ว ทำไมยังต้องมีกุญแจอีกล่ะ ? แน่นอนว่าต้องมีกุญแจสำรองเอาไว้ในกรณี ประตูดิจิตอลทำงานไม่ปกติ แบตเตอรี่หมด หรือเราลืมรหัสผ่าน ลืมคีย์การ์ด หรือสแกนลายนิ้วมือแล้ว ก็ไม่ทำงาน เป็นต้น
ประตูดิจิตอลกดรหัส PIN
สำหรับการปลดล็อคที่เราเห็นกันทั่วไปคือการกดรหัส PIN เป็นการปลดล็อคแบบพื้นฐานที่ ประตูดิจิตอลมีแทบทุกเครื่อง สามารถตั้งรหัสได้หลายชุด ซึ่งคุณสามารถตั้งรหัสแบบชั่วคราวสำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านได้ โดยไม่ต้องบอกรหัสหลักของเรา ง่ายและสะดวกดีค่ะ
ภาพจาก EBOSS
ประตูดิจิตอลแบบ Keycard
นอกจากการกดรหัสแล้ว ระบบแบบใช้ Keycard ก็เป็นอีกวิธีการปลดล็อคที่พ่วงติดมาแทบจะทุกเครื่องเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ในกรณีที่เพื่อนมาบ้านบ่อยๆ หรือคุณพ่อคุณแม่มาเยี่ยม พวกเขาจะได้สามารถเข้าห้องของเราได้โดยไม่ต้องจำรหัสให้วุ่นวาย
ประตูดิจิตอลแบบแสกนลายนิ้วมือ
การสแกนลายนิ้วมือ เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้งานได้ง่ายและทัยสมัย ไม่ต้องกลัวเรื่องการปลอมแปลงลายนิ้วมือ มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย แต่อาจจะมีข้อเสียอยู่นิดหน่อย ตรงการสแกนไม่ผ่านเพราะเรื่องของอากาศ นอกจากนี้ยังยุ่งยากหากจะให้เพื่อนหรือพ่อแม่ของคุณสามารถเปิดประตูได้ด้วยตัวเอง
ภาพจาก Gadget Flow
ประตูดิจิตอลแบบแสกนทุกอย่าง
รวมทุกอย่าง เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว … ประตูดิจิตอลที่สามารถสแกนเพื่อเปิดปิดประตูด้วยของอะไรก็ได้ ที่เราตั้งค่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัตร มือถือ หรือแม้กระทั่งขวดยาดม … พูดไปจะหาว่าโม้ แต่ Digital Door Lock สามารถทำได้แล้วจริงๆ แต่เรื่องของระบบความแม่นยำในการทำงาน อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ใช้วัตถุสแกน …
ประตูดิจิตอลแบบปลดล็อคด้วยมือถือ
ตัว ประตูดิจิตอล แบบปลดล็อคผ่านมือถือด้วย Application ที่คุณสามารถปลดลอคระยะไกลได้ ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Smart Home แต่การที่จะปลดล็อคประตูผ่านทางมือถือ จะต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา มือถือต้องห้ามแบตเตอรี่หมดเด็ดขาด ไม่งั้นเข้าบ้านไมได้นะ !
ภาพจาก Estopolis
Post a Comment